วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2558

Dropbox

.
เป็นช่วงเวลาที่เย็นมากแล้ว
ผมกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน
เห็นปุ๊ พยาบาลที่รับผิดชอบงานคลินิกกำลังง่วนอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อทำงานอะไรบางอย่าง
ผมจึงเดินเข้าไปไถ่ถาม เผื่อว่าจะมีคำถามเกี่ยวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ผมดูแลอยู่

ปุ๊เป็นคนด่านซ้าย..
แต่ไปเติบโตและเรียนหนังสือที่เมืองเลยตั้งแต่เด็กๆ เธอเคยเล่าให้ผมฟังว่ามีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวที่รู้จักกันในด่านซ้ายน้อยมาก หากเป็นเพื่อนที่เมืองเลยดูเธอจะรู้จักและคุ้นเคยกับคนที่นั่นมากกว่า ..
ผมรู้จักปุ๊ในฐานะเป็นลูกสาวของแม่กัล อดีตสามทหารเสือรุ่นบุกเบิกของวงการสาธารณสุขที่อำเภอด่านซ้าย ซึ่งมีแม่กัล แม่สำเร็จ และแม่ติ้ง..
สมัยผมมาบรรจุทำงานครั้งแรกจำได้ว่ายังเรียกทั้งสามคนว่าพี่
แต่พอเวลาผ่านไปไม่รู้ว่ากลายเป็นแม่ เป็นลูกกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

ถ้าถามว่าแม่กัลตอนสาวๆ เป็นยังไง ผมว่าดูได้จากปุ๊นี่แหละ..
รูปร่าง หน้าตา ท่าทาง วิธีการพูด เป็นลูกไม้ที่หล่นใกล้ๆต้น

ปุ๊บอกว่ากำลังส่งงานไปทางอีเมล์ของตัวเอง เพื่อจะได้สามารถเอางานกลับไปทำที่บ้าน
พร้อมกับพรั่งพรูปัญหาต่างๆที่เกิดความไม่สะดวกสบายจากนโยบายป้องกันไม่ให้ใช้แฟรชไดร์ฟ
เสียบกับคอมพิวเตอร์
เอ่อ..ที่จริงมันก็เสียบได้อยู่นะเพียงแต่มันไม่ทำงานเท่านั้นเอง ผมคิดในใจ
จากที่กำลังจะเตรียมตัวกลับบ้าน ผมเปลี่ยนใจนั่งรับฟังปัญหาของพยาบาลดีกว่า

งานหนัก กลับบ้านค่ำ แถมยังต้องหอบงานกลับไปทำที่บ้านอีก
ระบบคอมพิวเตอร์ก็ยุ่งยาก เสียบโน้น เสียบนี่ก็ไม่ได้ บลาๆๆ..
ปุ๊ไม่ได้พูด  แต่ผมรู้สึกได้ว่าอารมณ์เธอคงประมาณนั้น..

แต่ก่อนแค่จัดเก็บงานไว้ในแฟรชไดร์ฟ แต่ตอนนี้ทำงานยากมากขึ้น
เพราะต้องส่งไฟล์ไปทางอีเมล์เพื่อดาวโหลดเอาไปทำงานต่อที่บ้าน
เสร็จแล้วยังต้องส่งกลับมาเพื่อโหลดในที่ทำงาน
เป็นความยุ่งยากที่ทำให้เธอยุ่งเหยิง
เป็นปัญหาที่คาดไม่ถึง..ว่าจะทำให้เพื่อนร่วมงานลำบากเยี่ยงนี้

แต่ผมดีใจนะครับที่ปุ๊พยายามแก้ปัญหา ด้วยการไม่ฝ่าฝืนนโยบาย..
แต่ก็คงแอบค้อนใจกับระบบงานไอทีกันอยู่บ้าง

ฟังปุ๊เล่าปัญหาจบ..
ผมพบว่าเหมือนมีอะไรแว๊ปๆ แล่นแปล๊บเข้ามาในหัว(ใสๆ).

จึงรีบบอกปุ๊ไปว่า
สนใจไหม๊ถ้ามีวิธีที่จะให้สามารถทำงานที่บ้านและที่ทำงานได้ง่ายมาก
โดยไม่ต้องใช้แฟรชไดร์ฟ
และไม่ต้องส่งไฟล์เพื่อไปดาวโหลดกลับไป กลับมา..แบบนี้

ตอนนั้นผมเองก็ยังนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร
แต่คลับคล้าย คลับคลาว่าเคยผ่านหู ผ่านตา เกี่ยวกับโปรแกรมอะไรซักอย่าง
ที่มันน่าจะตอบโจทย์ และช่วยแก้ปัญหาของปุ๊ได้

อยากให้น้องทำงานได้สะดวก สบาย กลับบ้านได้ไวขึ้น
โดยที่นโยบายไอทีไม่ใช่ปัญหา
ผมคิดแค่นั้น..

นั่นเป็นเรื่องราวที่ทำให้ผมได้รู้จักค้นหา
และนำ Dropbox มาใช้ในโรงพยาบาลครั้งแรก









วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558

จดหมาย..

วันนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับคนที่ทำงานอยู่ไปรษณีย์..
มีคำถามหนึ่งที่ผมสงสัยใคร่รู้มานานมากว่า..
เดี๋ยวนี้..
ยังมีคนเขียนจดหมายส่งถึงกันอยู่ไหม๊?
...
เป็นคำถามประมาณว่า..
ชวนพูดชวนคุย หาหัวข้อสนทนากัน..
แต่คำตอบที่ได้รับกลับจริงจังมากกว่า..
...
เขาบอกว่า
เอกสาร สิ่งพิมพ์ของธุรกิจเอกชน
หรือหนังสือราชการต่างๆ ยังมีส่งถึงกันปกติ
แต่ถ้าเป็นจดหมาย..
ยังมีที่เด็กนักเรียนฝึกเขียนส่งถึงกัน
ส่วนจดหมายที่ส่งถึงกัน
จะเป็นประเภทที่ว่าหากันไม่เจอ
แต่พอจะรู้ที่อยู่..
ก็ยังมีจดหมายแบบนี้บ้าง แต่ไม่มากนัก
แต่ที่ยังมีส่งกันเยอะเป็นปกติ คือ
จดหมายที่ญาติเขียนส่งหาคนที่อยู่ในเรือนจำ
เข้าใจว่าคงเป็นไปตามระเบียบ
เจ้าหน้าที่เขาคงไม่อนุญาตให้ติดต่อสื่อสารด้วยวิธีอื่นๆ
นอกจากจดหมาย..
หากใครยังจะใช้การสื่อสารด้วยวิธีการส่งจดหมาย
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำนำสมัย..
ส่งข้อความได้ไวเท่าความคิด และปลายนิ้วสัมผัส
ดูจะเป็นวิธีที่ไม่เหมาะกับยุคสมัย..
แต่ทุกครั้งที่ได้รับ
แกะซอง เปิดอ่าน..
กวาดสายตาไปตามตัวอักษร
จินตนาการ มโนภาพไปตามเรื่องราว
กระดาษบางๆ ที่บรรจุสาร
สื่อถึงความสุข ความทุกข์ ความคิดถึงกัน
จดหมายแม้จะถึงช้า
แต่หลายคนบอกว่าคุ้มค่า..ที่จะรอคอย
...............
ผม..

จำไม่ได้แล้วว่าเคยเขียนจดหมาย
ใส่ซอง ติดแสตมป์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่



วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

มังกรของอาตี๋..



เพลงอาตี๋ สักมังกร ของเพลิน พรมแดน เป็นเพลงออกแนวตลกๆ ฮาๆ ว่าด้วยเรื่องของอาตี๋คนหนึ่งที่เดินทางมาหาอาจารย์สักยันต์ที่มีชื่อเสียง บอกความต้องการว่าอยากจะสักมังกร..และไม่ใช่มังกรธรรมดาๆ

"มังกร 9 หัว ตัวใหญ่ๆ หางยาวๆ มีหนวด มีเขามีเท้า มีนิ้ว มีเล็บ และคาบแก้วล่วย.."
ป้าด..แค่จินตนาการก็ทึ่งแล้วว่าจะเป็นรอยสักที่งดงามแค่ไหน

แต่สักไปสักมา อาตี๋เริ่มอออกอาการเพราะทนเจ็บไม่ไหว ขอหยุด และเปลี่ยนรูปลักษณ์ของมังกรใหม่ด้วยเหตุผลและข้ออ้าง  จนมังกรแทบจะไม่ต่างกับงูเขียว หรือดิน..หรือไม่ก็ปลาไหล

ดูไป ฟังไป ขำไป.. ฮาไป  เพลงสนุกแต่เนื้อหาโคตรตลกเหลือร้าย..

บทสรุปสุดท้ายของเพลงอาตี๋สักมังกรจบลงพร้อมกับความอดทนของอาจารย์เพลิน ที่หมดความอดกลั้นเพราะรับไม่ได้กับมังกรของอาติ๊ที่มีแนวโน้มจะทรานฟอร์เมอร์เป็นปลาไหล ด้วยคำขอสุดท้ายที่บอกว่า
" อาจารย์คัก อั๊วว่า มังกรไม่ต้องต้องเอาเกล็ดลีกว่าคับ.."

คนอย่างอาตี๋สักมังกร ทำให้ทุกข้ออ้าง เหตุผล ข้อต่อรอง ลงเอยกันอย่างเหมาะเจาะ

อาตี๊..ไม่ได้รอยสักมังกรอย่างที่เขาอยากได้  หรือเขาคงไม่อยากได้รอยสักมังกรนั้นจริงๆ



วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เอาชีวิตให้รอด จากการจมน้ำ


ผมมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ "น้ำ" ถึง 3 เรื่องใหญ่ๆ ซึ่งแต่ละเรื่องส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางความคิด ชีวิต ความเชื่อ และการดำเนินชีวิตหน้าที่การงานของผมหลายอย่าง..
เรื่องแรกเกิดขึ้นเมื่อตอนผมอายุประมาณ 7 ขวบ ซนกำลังได้ที่สมองยังไม่ได้เมมโมรี่คำว่ากลัว ที่บ้านอยู่ใกล้วัด เด็กๆอย่างพวกผมมักชอบไปฝากตัวเป็นศิษย์ก้นกุฎิ เพราะที่วัดจะมีขนมให้กินเป็นประจำทุกวัน ในฤดูน้ำหลากจะมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนที่บางมูลนาก และเป็นเรื่องปกติของเด็กๆที่มักจะแอบไปเล่นน้ำกันเป็นประจำ และวันนึงผมเกือบพลาด น้ำท่วมบริเวณชานหน้าบ้านที่ไปเล่นกันเป็นประจำ น้ำขุ่นมากทำให้มองไม่เห็นพื้น เด็กๆเล่นน้ำไป หยอกล้อกันไป เล่นกันอย่างหนุกหนาน และจู่ๆผมก็หายวับลงไปใต้พื้นน้ำอย่างไม่ทันตั้งตัว
กลไลร่างกายของคนเวลาจมน้ำ จะกลั้นหายใจอัตโนมัติ ความรู้สึกตกใจ ประหลาดใจ ตื่นเต้น กลัว ผสมผสานเป็นโลกใต้น้ำที่แปลกใหม่ ผมลืมตาดูโดยไม่ได้ตั้งใจ สายน้ำกำลังเย็นสบาย มองเห็นแสงวับๆกับยินเสียงผู้คนกำลังส่งเสียงเอะอะโวยวายอยู่บนหัว ลอยเคว้งคว้างนิ่งสงบอยู่อย่างนั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้ เริ่มรู้สึกอึดอัด พยายามขยับร่างกายที่กำลังล่องลอยไปอย่างไร้ทิศทาง หายใจไม่ได้เหมือนใจจะขาดรอนๆ ภาพในน้ำเริ่มเลือนลางใกล้มืดสนิท เหมือนกำลังจะหลับ แต่รู้สึกถูกดึงจากทางด้านหลัง และนั่นก็เป็นความรู้สึกครั้งสุดท้ายที่ยังรู้สึกตัว มีคนเล่าให้ฟังว่าผมตกน้ำแต่มีคนช่วยคว้าขึ้นมาได้..เกือบสบายไปแล้ว กลับบ้านโดนยายด่า ลุง ป้า น้า อา สวดยับไม่มีชิ้นดี หลังจากนั้นชีวิตผมก็เป็นเด็กกลัวน้ำมาตลอด ไม่เคยได้ย่างกรายไปใกล้น้ำอีกเลย
เรื่องที่สอง ผ่านมา 20 ปี พอดิบพอดี ไปฝึกงานที่โรงพยาบาลอุบลรัตน์จังหวัดขอนแก่นในปี 2533 ที่นั่นมีแหล่งน้ำที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รู้จักกันดี คือ เขื่อนอุบลรัตน์ และมีนักท่องเที่ยวนิยมไปนั่งเรือชมทิวทัศน์รอบเขื่อน ซึ่งแม้ว่าจะฝึกงานกินนอนที่นั่น 6 เดือน นั่งเรือชมเขื่อนไม่เคยอยู่ในหัว
ผมกำลังทำงานอยู่ที่สถานีอนามัยโคกสูง พี่เลี้ยงบอกว่าโรงพยาบาลให้น้องๆ พอ. เข้าไปช่วยงานด่วนที่โรงพยาบาล เพราะมีเหตุเรือล่มที่เขื่อนอุบลรัตน์ นักท่องเที่ยวบนเรือเป็นนักศึกษาหลักสูตรเจ้าพนักงานเภสัชกรรม จากวิทยาลัยการสาธารณสุขหลายแห่ง ที่มาประชุมกันที่จังหวัดขอนแก่น
มารู้ทีหลังว่าหลายคนที่เสียชีวิตในวันนั้นเป็นน้องๆที่ผมและเพื่อนรู้จักกันดีเพราะเรียนที่เดียวกัน เรือจมช่วงบ่ายๆ แต่กว่าจะได้ศพแรกขึ้นมาเกือบห้าโมงเย็น เป็นงานรับอุบัติเหตุหมู่ครั้งแรกที่แสนเศร้า เพราะเราเสียเพื่อน น้อง คนรู้จักไปหลายคน และนั่นเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับน้ำที่ไม่น่าจดจำ ตอกย้ำความกลัวน้ำ แถมการลงขึ้นรถลงเรือไปเหนือล่องใต้พ่วงเข้ามาอีก..
เรือไม่เอา เรือบินก็ไม่อยากนั่ง.. กัว
แน่นอนครับ กลัวน้ำขนาดนี้ ผมไม่เคยคิดจะไปตีซี้สนิทสนมอะไรกับที่เกี่ยวกับน้ำแน่ๆ แต่อย่างว่าแหละครับชีวิตไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ผมได้รับมอบหมายงานที่ทางโรงพยาบาลร่วมกับภูนาคำรีสอร์ทจะจัดกิจกรรมสอนว่ายน้ำให้กับเด็ก โดยจะเชิญครูอุ้ย ซึ่งเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่เป็นจิตอาสามาช่วยสอนในช่วงปิดเทอมให้กับเด็กๆ นอกจากไปดูแลครู ดูแลเด็ก ผมควรจะลงน้ำช่วยสอนเด็กด้วย
ให้ผมช่วยดูแลเรื่องการสอนว่ายน้ำนี่นะ !! แอบขำในใจ
ลำพังตัวเองยังจะเอาไม่ค่อยจะรอดเลย และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นและจุดพลิกผันดันชีวิตให้ผมมาเป็นครูสอนเด็กว่ายน้ำอย่างไม่ได้ตั้งใจ..
มิน่าโบราณถึงว่า เกลียดอะไร มักได้อย่างนั้น ดูท่าจะจริง (ฮา)

สระว่ายน้ำในโลก ในประเทศไทย หรือแม้แต่ในอำเภอด่านซ้าย ก็มีไม่น้อยนะครับ สิ่งที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ คือ มีคนได้ใช้มันจริงๆไม่กี่คน ตามโรงแรม รีสอร์ท บ้านพัก โอกาสที่เด็กๆจะได้ไปเล่น ไปใช้บริการก็ต้องจ่ายกันหลายตังค์ เพราะต้นทุนทำสระว่ายน้ำการดูแลรักษาไม่ใช้ถูกๆ ไหนจะค่าชุด อุปกรณ์ ค่าน้ำมันรถเดินทาง ค่าจ้างครูฝึก ฯลฯ เอาเป็นว่าถ้าคุณไม่ใช่แขก VIP และคุณไม่มีตังค์ก็นั่งมองไปก่อน
ผู้ปกครองหลายคนเลยจนใจ ยอมรับสภาพ เด็กลุ่มน้ำหมันรุ่นใหม่ๆ จึงเป็นเด็กที่ว่ายน้ำไม่เป็น ชีวิตจึงฝากไว้กับวัดกับดวง ไปเสี่ยงเอาละกันตามบุญทำกรรมแต่งของแต่ละคน

หากไปถามเรื่องนี้กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่นิยมขุดลอกคลอง ก่อสร้างในบ้านในเมืองไทยเรา ความจำเป็นในการสร้างสระว่ายน้ำน่าจะติดโผอันดับท้ายๆ ของสิ่งที่มองไม่เห็นว่าจำเป็นตรงไหน..
แต่ถ้าถามคนเป็นพ่อแม่ว่าห่วงอะไรลูกบ้าง?
คงไม่พ้นเรื่องเรียน อุบัติเหตุ ติดยา เพศสัมพันธ์ และกลัวลูกตกน้ำป๋อมแป๋มตาย
เพราะว่ายน้ำไม่เป็น
ความห่วงความกังวลเรื่องลูกว่ายน้ำไม่เป็น น่าจะติดโผหนึ่งในสิบ
ที่โรงพยาบาลเราคิดต่างครับ แถมยังฝันเป็นตุเป็นตะว่าสักวันจะมีสระว่ายน้ำเป็นของเราเอง และฝันเป็นจริง
เด็กๆกับการเล่นน้ำ มีคนบอกว่าเป็นของคู่กัน และผมเชื่อว่ามันจริง
หากคุณมองเห็นแววตา ได้ยินเสียงหัวเราะ สัมผัสความสนุกสนาน ความเป็นธรรมชาติของเด็กเมื่อได้เล่นน้ำ อากาศจะร้อน จะหนาว ยังไงก็ยังมีความสุข ดูแล้วรู้สึกย้อนวัยว่า " เฮ้ย นี่มันชีวิตเราในวัยเด็กเลยนี่หว่า! "
งานสอนว่ายน้ำ กลายเป็นประจำที่ทำแล้วสนุกอีกงาน เพราะความสุขไม่ต้องทำวิจัย ไม่ต้องทำ R2R
และที่สำคัญงานนี้สำหรับเด็กๆ ผมพบว่ามีจะผู้ใหญ่ใจดีพร้อมจะช่วยสนับสนุนเสมอ
นี่คือ สามเรื่องสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับ "น้ำ" ที่มีอิทธิพลต่อผม
จริงๆมีอีก "น้ำ" ที่สำคัญมาก..
เอ่อ แต่เรื่องนี้ขอเป็นฟามลับสุดยอด

วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อยาก..



อยากได้ อยาก
อยากมี อยากดี อยาก
อยากเด่น อยากเก่ง อยากรวย

อยากสวย อยากหล่อ

อยาก อยาก  อยาก

O

     O

               
O       

                O




วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

บฉ 5436 เลย

รถปิกอัพป้ายทะเบียน บฉ 5436 เลย เป็นรถยนต์คันแรกที่ผมซื้อเมื่อปี 2546 ตอนนั้นมีโตโยต้า เจ้าเดียวที่มีเครื่อง D4D Commonrail ซึ่งว่ากันว่าประหยัดน้ำมันสุดๆในยุคนั้น ผมเลือกสีเทาดำดูทึมๆ ซึ่งต่างจากสีอื่นที่กำลังเป็นที่นิยมกัน นั่งหลังพวงมาลัยขับมา 8 ปี แรงดี ไม่มีตก ไม่เคยเกเร ไม่เคยชน ไม่เคยเข้าอู่ซ่อม ขึ้นเหนือลงใต้ไปไหนไปกัน เป็นเพื่อนร่วมทางที่ไว้ใจได้ 

ตอนลูกยังตัวเล็กๆ ปิกอัพแค๊ปดูจะกว้างใหญ่พอที่จะไปไหนได้สบายสำหรับเด็กๆ แต่พอโตกันมากขึ้นห้องโดยสารดูแคบถนัดใจ ทำให้ผมเริ่มมองหารถคันใหม่ที่เหมาะกับครอบครัว ตอนที่จะขายครั้งแรกก็รู้สึกเสียดาย เพราะดูแลกันมาอย่างดี เข้าศูนย์ตามนัดทุกครั้ง เซลล์ที่ศูนย์บอกว่ารุ่นนี้ ถ้าปล่อยที่ศูนย์ก็คงได้ราวๆ 250,000 บาท คิดหนักเลย ช่วงนั้นรถรุ่นใหม่กำลังเข้าสู่ตลาด เต๊นท์รถมือสองรุ่นเดียวกับที่รถผมจอดรอเป็นแถว ใจหนึ่งก็คิดว่าจะปล่อยไป เพื่อจะได้เอารถใหม่เร็วๆ แต่เซลล์เขาก็แนะนำดีครับ บอกให้ผมลองประกาศขายดู รถบ้าน ประวัติดีแบบนี้ ราคาน่าจะได้ถึง 350,000 บาท

ประกาศขายไม่กี่วัน มีคนติดต่อมาขอดูรถและตกลงซื้อกันทันที เหตุผลที่เข้าใจง่ายๆ คนซื้อเขารู้ประวัติรถบ้านผมดีครับ เพราะส่วนใหญ่แม่บ้านเป็นคนใช้ วิ่งระยะใกล้ แปดปีหลักไมล์ยังไม่ถึงแสน มิน่าเขาถึงรีบคว้าโดยไม่ได้ต่อรองอะไรมาก

ผ่านมาสามปีกว่า ผมได้เจอรถเก่าที่ขับสวนกันอยู่ 2 ครั้ง ได้ข่าวว่าเจ้าของใหม่ใช้ขนสินค้าเกษตร มีการติดอุปกรณ์เสริมโครงเหล็ก เพิ่มแหนบเพื่อให้รับน้ำหนักได้มากขึ้น แต่ก็เจอกันแบบผ่านตา วันนี้ได้มาเจอกันแบบบังเอิญ มีเวลามากพอที่จะเดินสำรวจดูรอบๆ สภาพโดยรวมยังดูดี รอบตัวถังมีรอยบุบ ถูกชน สีถลอกไปบ้างเล็กน้อย และดูเหมือนจะผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก ถ้าเปรียบเป็นคนคงเหมือนจากหนุ่มเจ้าสำอางค์ เปลี่ยนมาทำงานเป็นกรรมกรแบกหามหุ่นล่ำบึก..

รู้สึกดีใจเหมือนได้เจอเพื่อนเก่า..ที่ไม่ได้พบกันมานา

เพราะ..ไม่ใช่เป็นเพียงแค่รถยนต์คันแรก
แต่เป็นหยาดเหงื่อ เป็นน้ำพักน้ำแรง เป็นความภาคภูมิใจ
เป็นเพื่อนยามยาก ในวัยที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว
เป็นเพื่อนพาไปเที่ยว เป็นที่หลับนอนในยามเดินทาง
เป็นบ้านเคลื่อนที่หลังเล็กๆ ที่มีเสียงหัวเราะของเด็กๆ..
และ เป็นความทรงจำที่ดี